UFL (ยูเอฟแอล): วันวางจำหน่าย, ราคา และฟีเจอร์เด็ดของเกมฟุตบอลซิมูเลชันแบรนด์ใหม่ – 90min

เกมฟุตบอลซิมูเลชัน Unitd Football League (ยูไนเต็ด ฟุตบอลลีก) หรือ UFL (ยูเอฟแอล) เป็นเกมฟุตบอลแบรนด์ใหม่ล่าสุดในตลาด ท้าชนผู้เล่นบิ๊กเนมในตลาดเวลานี้อย่าง FIFA (ฟีฟ่า) และ eFootball (อีฟุตบอล)

ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง อีเอ สปอตส์ และ โคนามิ ที่เป็นเจ้าตลาดวิดีโอเกมฟุตบอลมาอย่างยาวนานกำลังจะเผชิญหน้ากับแบรนด์ใหม่ถอดก้าม ก้าวขึ้นมาชิงส่วนแบ่งตลาด เปิดตัวประกาศสงครามด้วยการใช้ผู้เล่นบิ๊กเนมอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นหน้าปกชูโรง

รายละเอียดของเกม UFL ค่อยเผยออกมาเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป เราพาผู้อ่านสรุปทุกความเป็นไปที่พวกเขาเปิดเผยต่อสาธารณะจนถึงเวลานี้

UFL (ยูเอฟแอล) เป็นเกมฟุตบอลแบรนด์ใหม่ที่พัฒนาโดย Strikerz Inc. (สไตรเกอร์ซ อิงค์) ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่งาน เกมส์คอม ใน โคโลญจน์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 สร้างปรากฎการณ์แก่คอเกมลูกหนังนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สไตรเกอร์ซ อิงค์ จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ FIFPRO (ฟิฟโปร) องค์กรซึ่งเป็นตัวแทนของนักฟุตบอลอาชีพกว่า 65,000 ราย ไปจนถึง InStat (อินสแตท) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลฟุตบอลชั้นนำ

สไตรเกอร์ซ อิงค์ ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเกม ยูเอฟแอล แต่อย่างใด นอกจากการประกาศกรอบเวลา ให้คำมั่นสัญญาว่าจะวางขายภายในปี 2022

มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะวางจำหน่ายเกม ยูเอฟแอล ภายในช่วงครึ่งปีหลัง ชนกับเกม ฟีฟ่า ภาคใหม่และสอดคล้องกับฤดูกาลแข่งขัน 2022/23 ด้วยเช่นเดียวกัน

เราจะอัพเดทข้อมูลวันวางจำหน่ายของเกม ยูเอฟแอล อีกครั้งเมื่อ สไตรเกอร์ซ อิงค์ ประกาศอย่างเป็นทางการ

สิ่งที่ทำให้เกม ยูเอฟแอล กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงคือโมเดล free-to-play เปิดให้ผู้เล่นสนุกกับเกมของพวกเขาแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีโมเดลการหารายได้แบบ in-app purchase

“เกมนี้จะเปิดให้เล่นฟรีและเราจะอัพเดทฟีเจอร์ใหม่โดยผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมรายปีแต่อย่างใด” สไตรเกอร์ซ อิงค์ ระบุในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเปิดตัวเกม ยูเอฟแอล “เกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประสบการณ์แบบ fair-to-play (เล่นอย่างยุติธรรม) ที่คำนึงถึงการให้ความสำคัญกับทักษะการเล่นเป็นลำดับแรก และทางเลือก pay-to-win (จ่ายเพื่อชนะ) เป็นศูนย์”

โดยปกติแล้วเหล่าเกมเมอร์คอลูกหนังต้องจ่ายเงินค่าเกมอย่าง ฟีฟ่า ที่มูลค่าเปิดตัวราว 1,899 บาท (PS4) และ 2,199 บาท (PS5) ซึ่งการใช้โมเดล free-to-play จะเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับ ยูเอฟแอล อย่างเห็นได้ชัด

สไตรเกอร์ซ อิงค์ ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใดถีงแพลตฟอร์มที่พวกเขาจะปล่อยตัวเกมให้เล่น แต่เบื้องต้นในการแถลงข่าวพวกเขาระบุว่าพร้อมจะให้เข้าถึงจากเครื่องเล่นเกมในทุกคอนโซล

ดังนั้น เราพอที่จะคาดการณ์ ‘ทุกคอนโซล’ ที่พวกเขาระบุเอาไว้ได้แก่

เกม ยูเอฟแอล อนุญาตให้ผู้เล่นสร้างสโมสรฟุตบอลของตนเองจากนักฟุตบอลที่พวกเขาถือลิขสิทธิ์กว่า 5,000 ราย

ผู้เล่นยังสามารถใช้ทีมที่ตนเองสร้างดวลกับผู้เล่นอื่นๆ ทั่วโลกกับโหมดเกมอันหลากหลายเช่น 1v1, 2v2 และ 3v3 ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมไปถึงโหมด ‘Missions & Challenges’ ที่ยังไม่มีการระบุรายละเอียดจาก สไตรเกอร์ซ แต่อย่างใดจนถึงเวลานี้

ทั้งนี้ โหมดระดับเรือธงของ ยูเอฟแอล ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Ultimate Team (อัลติเมททีม) ของซีรีย์ FIFA