“ป๋า” ผู้เป็นมากกว่าเจ้านายของ “โด้” – สยามกีฬา

แม้จะล้างมือในอ่างทองคำไปนานแล้วกว่า 8 ปีครึ่ง แต่ดูเหมือนว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่สามารถเอาตัวและหัวใจออกห่างจากเกมลูกหนังได้เลยนะครับ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

    เรายังคงเห็น “ป๋า” บนวัย 79 กะรัต ตระเวณเดินทางไปชมเกมที่ทีมเก่าของตัวเองลงสนามอย่างสม่ำเสมอในฐานะ “ซูเปอร์แฟน”

    แกยังคงลุ้นตัวโก่งจนเสียทรงหากพบจังหวะหวาดเสียวบนสนาม ยังคงสบถด้วยอารมณ์ร่วมอันสูงส่ง ยังคงกำหมัดสะใจพร้อมฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีเมื่อเห็น ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดั่งใจ 

    และยังคงเป็น “ป๋า” ที่เต็มไปด้วย “แพสชั่น” อย่างที่แฟนผีรู้จัก และจดจำเสมอตลอด 27 ปีบนบัลลังก์

    เมื่อมีข่าวลือแพร่สะพัดทั่วโลกลูกหนังในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังเตรียมโยกจาก ยูเวนตุส สู่ แมนฯ ซิตี้ ดูเหมือนว่า ต่อมแพสชั่นของแกจะเริ่มกระตุกอย่างรุนแรงกว่าปกติ 

    โธ่ ใครจะไปทนได้ล่ะครับ หากลูกรักที่ตัวเองเคยปลุกปล้ำมากับมือจนโด่งดังคับฟ้า ต้องย้ายไปสวมเครื่องแบบคู่อริร่วมถิ่น 

    เราจึงได้ยินวงในกระซิบว่า “ป๋า” คือผู้อยู่เบื้องหลังดีลสุดฮือฮาที่ดึง โรนัลโด้ กลับมาสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อได้โทรคุยกับซุปตาร์ทีมชาติโปรตุเกส หลังรับทราบว่า เจ้าตัวเหนื่อยล้ากับ “ม้าลาย” แล้ว ในขณะที่กระแสข่าวเตรียมโยกเข้า เอติฮัด สเตเดี้ยม เริ่มโหมรุนแรงเรื่อยๆ 

    จนกระทั่งดีลในฝันของแฟนผีบังเกิดขึ้นโดยไม่ต้องรออีก 48 ชั่วโมงเหมือนกับหลายๆ ดีลที่ผ่านมา 

    

    คิดสะระตะแล้ว น่าจะเป็นเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นเองนะครับ นับจากที่ข่าวกับ ยูไนเต็ด ถูกปูดจนได้รับตราปั๊มคอนเฟิร์ม

    

    เช้าวันศุกร์ 27 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ข่าวล่ามาแรงระบุว่า แมนฯ ซิตี้ กำลังจะเขย่าพรีเมียร์ลีก และสั่นเมืองแมนด้วยการเซ็นสัญญากับ โรนัลโด้ หลังจากเจ้าตัวบอกลาเพื่อนที่ ยูเว่ และเก็บข้าวของออกมาแล้ว 

    

    ริโอ เฟอร์ดินานด์ เพื่อนที่เคยเล่นกับ โรนัลโด้ ที่ ยูไนเต็ด กว่า 6 ปี ขยับตัวทางโซเชี่ยลด้วยการลงภาพมีม เลโอนาร์โด้ ดิ คาปริโอ จากหนังเรื่อง “Django Unchained” ที่กำลังแยกยิ้มแสยะแบบแปลกๆ ประหนึ่งว่า รู้อะไรดีๆ มา

    ช่วงสายๆ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ ยูเว่คอนเฟิร์มว่า โรนัลโด้ ไปแน่นอน 

    แต่เกือบๆ เที่ยงเริ่มลือกันเบาๆ ว่า ยูไนเต็ด มีการติดต่อกับ จอร์จ เมนเดส เอเย่นต์ โรนัลโด้ ด้วย 

    หัวใจแฟนผีเริ่มเต้นตูมตามได้พักเล็กๆ ช่วงบ่ายโมงครึ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แถลงข่าวความพร้อมสำหรับเกมสุดสัปดาห์ทาง ZOOM ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้คนได้คิสนิดนึงว่า “ถ้าเขาจะย้ายออกจาก ยูเวนตุส เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่” 

    จากนั้น เหมือนคดีจะพลิก บ่ายสองกว่าๆ มีข่าวปูดว่า โรนัลโด้ ได้คุยบางอย่างกับ “เฟอร์กี้” ก่อนมีการยืนยันว่า “เรือใบสีฟ้า” ถอนเสมอแล้ว 

    เกือบบ่ายสาม สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ยูไนเต็ด เอาแน่หลังจากได้ไฟเขียวจากตระกูลเกลเซอร์ และน่าจะมีการตรวจร่างกาย และประกาศการทำสัญญาช่วงหกโมงเย็น

    สี่โมงเย็น 15 นาที เว็บไซต์สโมสร ยูไนเต็ด ล่ม เพราะเซิร์ฟเวอร์รองรับการคลิกเข้าไปเช็กข่าวของปวงมหาประชาชนไม่ไหว 

    ก่อนห้าโมงเย็นนิดๆ ที่สุดแล้ว ก็มีแถลงยืนยันข้อตกลงทางการตามมา พร้อมกับการเปิดเผยรายละเอียดแบบไม่เป็นทางการว่า ทั้งสองฝ่ายทำสัญญา 2 ปีที่ระบุค่าเหนื่อย 480,000 ปอนด์ต่อวีก

    เหตุผลง่ายๆ เลย ที่มันเกิดขึ้นได้รวดเร็วเพราะ นี่คือดีลที่ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะเบื้องบนอย่างพวกเกลเซอร์ ที่ต้องการให้แฟนๆ รู้สึกดีบ้าง เพื่อล้างบาปจากกรณีโดดร่วมวงซูเปอร์ลีก

    และแน่นอน รวมถึง “ป๋า” ที่ยังคงเปี่ยมบารมีที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย

    คราวนี้ แกไม่ต้องลำบากถึงขั้นต้องแอบนั่งรถไปฉกตัวนักเตะที่สนามบินเพื่อตัดหน้า ซิตี้ เหมือนอย่างที่เคยทำปฏิบัติการอุ้ม ดิมี่ เบอร์บาตอฟ ในวันสุดท้ายก่อนปิดตลาดซื้อขายนักเตะเมื่อปี 2008 

    เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์ไปคุยกับ โรนัลโด้ ทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องง่ายดาย

    

    คนคู่นี้ เขามีสายใยอะไรบางอย่างที่บางที เราๆ คนนอกอาจไม่เข้าใจนะครับ 

    มันลึกซึ้งกว่าความสัมพันธ์แบบ เจ้านาย-ลูกน้อง มากมายนัก นับตั้งแต่วันที่ “เฟอร์กี้” ตัดสินใจทุ่มเงิน 12 ล้านปอนด์คว้าดาวรุ่งฝอยทองหน้าเปื้อนสิววัย 18 จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน สู่รัง “ปีศาจแดง” เมื่อปี 2003  

    

    เมื่อปี 2005 ตอนที่ โชเซ่ ดินิส อเวยรู่ พ่อแท้ๆ ของ โรนัลโด้ ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลด้วยอาการน่าเป็นห่วง “เจ๊ทโด้” ได้รับไฟเขียวจาก “เฟอร์กี้” ให้ไปดูแลบิดาได้ยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการลงสนาม แม้ทีมมีโปรแกรมสำคัญหลายนัดวางรออยู่ก็ตาม

    “ตอนที่พ่อผมป่วยเข้าโรงพยาบาลในลอนดอน อาการโคม่า ผมบอกเขาว่า เจ้านายครับ ผมไม่สบายใจเลย ตอนนั้นเรามีเกมสำคัญใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซะด้วย แล้วเขาก็ตอบกลับาว่า คริสเตียโน่ นายจะไปหนึ่งวัน สองวัน หรือเจ็ดวันก็ได้ ไปเลย แน่นอน เราจะคิดถึงนาย เพราะนายคือคนสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคือพ่อของนาย ผมได้ยินแล้วรู้เลยว่า เขาสุดยอดมาก เขาคือพ่อของผมในโลกของฟุตบอล” 

    โรนัลโด้ หมายความตามที่พูดจริงๆ เพราะหลังจากนั้น “ป๋า” ก็กลายเป็นพ่ออีกคนของ โรนัลโด้ หลังจากที่เขาได้สูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไป

    เขาทำทุกอย่างเพื่อ “ป๋า” แม้แต่ยอมชะลอการย้ายสู่ทีมในฝันอย่าง เรอัล มาดริด ตามขอของเจ้านาย ก่อนจะจากไปด้วยดีในปี 2009 พร้อมกับฝากผลงาน 118 ประตูกับ 69 แอสซิสต์จาก 292 นัดไว้ในอ้อมใจแฟนผี และรายได้จากการขายเขาจำนวนถึง 85 ล้านปอนด์

    

    แม้จะโด่งดังเป็นขวัญใจแฟนบอล “ราชันชุดขาว” แต่ โรนัลโด้ ไม่เคยลืมคนที่ช่วยให้เขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีก (2007, 2008, 2009), แชมป์ เอฟเอ คัพ (2004), แชมป์ ลีก คัพ (2006, 2009), แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (2008), แชมป์สโมสรโลก (2008), บัลลงดอร์ (2008), ดาวซัลโวรองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก (2007) และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี พีเอฟเอ (2007, 2008)

    โรนัลโด้ คือคนแรกๆ ที่ส่งข้อความแสดงความยินดีกับนายเก่า ในโอกาสพิเศษที่ ยูไนเต็ด จัดพิธีเปิดรูปปั้นให้บรมกุนซือสกอตติชที่หน้า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อเดือน พ.ย. 2012 โดยมาในรูปแบบของวีดีโอคลิปพร้อมถ้อยคำดีๆ และคำขอโทษที่มาร่วมงานด้วยตัวเองไม่ได้เพราะติดโปรแกรมชุก

    เขาคือคนแรกๆ เช่นกันที่ส่งคำยินดีมาให้ “ป๋า” ในวาระที่ได้รางวัลบุคคลกีฬาแห่งปีเมื่อเดือน ธ.ค. 2013 โดยย้ำว่า “คุณเหมือนพ่อของผมในโลกฟุตบอล คุณคือนัมเบอร์วัน” 

    วันที่ เฟอร์กูสัน วางมือ ก็เป็น โรนัลโด้ ที่ส่งข้อความมาถึง “ป๋า” เป็นคนแรกๆ ว่า “ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างครับ เจ้านาย” 

    โรนัลโด้ หาเวลาทักทายกับนายเก่าหลังคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่ คาร์ดิฟฟ์ ในปี 2014 ส่วนในปี 2015 เราได้เห็นภาพ “เฟอร์กี้” ไปยินดีกับไอ้ลูกชายบนพรมแดงในงานเปิดตัวภาพยนตร์ชีวิต โรนัลโด้ 

    แต่ที่ตรึงใจผู้คนมากที่สุด เห็นจะเป็นโมเม้นต์ในปี 2016 ที่ “เฟอร์กี้” ไปยืนดักรอยินดีและสวมกอดแน่นๆ กับ โรนัลโด้ ระหว่างทางลงบันไดที่ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ หลังจากพิธีรับมอบเหรียญแชมป์ ยูโร 

    

    ปี 2017 “ป๋า” คือแขกพิเศษของ โรนัลโด้ ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ คาร์ดิฟฟ์ ซึ่ง “เจ็ทโด้” ก็ไม่ทำให้แขกของเขาผิดหวัง เมื่อซัดเบิ้ลให้ เรอัล มาดริด ถล่ม ยูเว่ 4-1 พร้อมกับรับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ จากมือ “เฟอร์กี้” ก่อนจะได้รับการแนะนำให้รู้จักเจ้าหลานชายอย่าง โรนัลโด้ จูเนียร์ 

    ทันทีที่ทราบข่าวว่า “ป๋า” ต้องถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดสมองเมื่อปี 2018 เจ้าลูกชายไม่รีรอที่จะส่งความปรารถนาดี และห่วงใยไปให้ผ่านทางโซเชี่ยลด้วยการโพสต์รูปคู่นายเก่าพร้อมข้อความซึ้งๆ “ขอส่งใจไปให้คุณ เพื่อนที่รักที่สุด แข็งแรงนะครับ บอส” จนคนแห่กดไลก์ทะลักนับ 10 ล้าน

    

    ห้าเดือนผ่านไปหลังจากผ่าตัด “ป๋า” พาตัวเองไปยังโรงแรม คราวน์ พลาซ่า โฮเต็ล ที่พักของนักเตะ ยูเว่ ก่อนเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ โรนัลโด้ จะได้กลับมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้งเมื่อเดือน ต.ค. เพื่อทักทายกับไอ้ลูกชาย ซึ่งต่อมาได้ทวิตข้อความว่า “สอนผมหลายๆ อย่างทั้งใน และนอกสนาม ดีใจมากที่ได้เห็นเจ้านายสุขภาพแข็งแรง”

    “เฟอร์กี้” ส่งคลิปตัวเองไปยินดีกับ โรนัลโด้ ตอนที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโปรตุเกสเป็นสมัยที่ 10 ติดต่อกันเมื่อปีก่อน ชนิดที่ว่า ทำเอาผู้ชมน้ำตารื้นกันหมด

    “ยินดีด้วยกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และค่ำคืนแสนพิเศษของนายที่โปรตุเกส ฉันเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย แต่เมื่อมองย้อนไปตอนที่เห็นนายสมัยอายุ 17 ที่มายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงวันนี้ นายมาไกลมากจริงๆ ทั้งในเรื่องของนักกีฬา และชีวิตคนคนหนึ่ง

 

    “ฉันอยากจะบอกนาย, แม่ของนาย และครอบครัวของนาย, ลูกๆ ของนายว่า นายทำได้ดีมากๆ นายคือความภาคภูมิใจที่สุดของฉัน ที่ฉันเคยรู้จัก เคยร่วมงานด้วย และเคยได้เห็นพัฒนาการทางฟุตบอล

     

    “โชคดีนะ ขอให้นายมีค่ำคืนที่สุดวิเศษ นายสุดยอดจริงๆ”

    …….

      ทุกครั้งที่มีคนถามว่า ระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ใครยิ่งใหญ่กว่า? ในสายตาของ “เฟอร์กี้”  คำตอบที่ได้รับคือคำตอบเดียวคือ “โรนัลโด้ แกร่งกว่า คนชอบถามว่า ใครเก่งสุดในโลก บางคนอาจบอกว่า เมสซี่ แต่สำหรับ โรนัลโด้ เขาสามารถเล่นให้ มิลล์วอลล์ ก็ได้, คิวพีอาร์, ดอนคาสเตอร์ หรือทีมไหนก็ได้ แล้วก็ซัดแฮตทริกสบายๆ ผมไม่แน่ใจว่า เมสซี่ จะทำได้ไหม”

    “โรนัลโด้ มีเท้าทั้งสองที่ไวมาก เขาเก่งเรื่องลูกกลางอากาศ เขากล้าเล่น จริงอยู่ เมสซี่ ก็กล้าเล่นเหมือนกัน แต่ผมแค่ติดว่า เมสซี่ คือนักเตะ บาร์เซโลน่า” 

    นั่นคือคำนิยมที่ “ป๋า” ว่าไว้ทาง บีบีซี เมื่อปี 2015 นะครับ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เมสซี่ ได้ย้ายออกจาก บาร์ซ่า ไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ลูกรักของแก ก็กลับมาเริ่มต้นใหม่กับ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

    กระนั้น แม้อะไรๆ จะเปลี่ยนไป เชื่อเถิดว่า คำตอบของคำถามนี้สำหรับ “ป๋า” ยังคงเหมือนเดิม

    รู้ไหมครับว่า อันที่จริง ความคิดที่จะได้เห็น โรนัลโด้ กลับมาสวมชุด “ปีศาจแดง” อีกครั้งของ เฟอร์กูสัน ไม่เคยเลือนหายไปจากสมองแกเลย 

    และผมเชื่อว่า สำหรับ โรนัลโด้ เองก็เช่นเดียวกัน 

    เขาคิดถึง “โรงละครแห่งความฝัน” เสมอ แม้จะออกไปได้ดิบได้ดีกับสโมสรอื่น ด้วยสำเหนียกดีว่า ไม่มีที่ไหนเหมือน “บ้าน”

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค. 2013 หลังย้ายไปสวมชุดขาวได้สี่ปี “เจ๊ทโด้” มีโอกาสได้กลับมาเยือนบ้านเก่าของเขาเป็นครั้งแรกในเกมที่ เรอัล มาดริด มีคิวบุกมาทำศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูไนเต็ด 

    โดยรูทีนปกติก่อนเกม คุณพี่ อลัน คีแกน โฆษกสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะประกาศรายชื่อผู้เล่นฝั่งทีมเยือนเป็นลำดับแรกด้วยน้ำเสียงเนิบๆ ธรรมดา แล้วค่อยตามด้วยรายชื่อนักเตะเจ้าบ้านแบบเต็มพลังเสียง เพื่อเรียกเสียงปรบมือ และความฮึกเหิมจากปวงแฟนผี

    แต่ค่ำคืนนั้น “ป๋า” ได้เดินไปกระซิบบางอย่างกับพี่โฆษกให้ช่วยปรับเปลี่ยนนิดหน่อย 

    ว่าแล้ว คีแกน ก็คว้าไมค์มาประกาศรายนามผู้เล่นฝั่งเจ้าถิ่นก่อนซะงั้น แล้วก็ตามด้วยชื่อของ เรอัล มาดริด โดยใส่อารมณ์กับชื่อของ โรนัลโด้ เป็นพิเศษ ด้วยลีลาลากเสียงเน้นๆ แบบ ไมเคิ่ล บัฟเฟอร์ โฆษกมวยชื่อก้องโลำก

    “Ro-nal-dooooooo!” สิ้นเสียงเปล่ง อัฒจันทร์ทุกฝั่งของ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ขานรับกระหึ่มแตกด้วยเสียงปรบมือ และเป่าปากอื้ออึง

    โรนัลโด้ สามารถรับรู้ได้ว่า ความรักที่แฟนผีมีให้เขายังเหมือนเดิม 

    มันตรงตามเป้าประสงค์ของ “ป๋า” ที่วางพล็อตจัดให้ลูกรัก 

    อดีตขวัญใจหมายเลข 7 คือคนที่พังประตูสำคัญให้อาคันตุกะจากสเปนคว้าชัย 2-1 จนได้ชนะด้วยสกอร์รวม 3-2 แต่เขาก็ให้เกียรติแฟนผีด้วยการไม่แสดงทีท่าฉลองอันใดเพื่อทำร้ายจิตใจ

    ว่ากันว่า หาก “ป๋า” ไม่วางมือหลังจบซีซั่นนั้น บางที เราอาจได้เห็น โรนัลโด้ คัมมิ่งโฮมแล้วก็เป็นได้ 

  

    ตัดภาพมายังปี 2018 โรนัลโด้ ยังคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ปวงแฟนผีมีให้เขา เมื่อกลับมาเยือนบ้านเก่าอีกครั้งกับ ยูเว่ 

    เขาตบหน้าอกข้างซ้ายเหมือนจะบอกให้เหล่ากองเชียร์ได้รู้ว่า เขาเองก็ยังไม่ลืม ยูไนเต็ด เช่นกัน 

    

  

    วันนี้ โรนัลโด้ กำลังจะได้กลับมายังบ้านเก่าอีกครั้งแล้วนะครับ หลังจากไปถึง 12 ปี 

    

    12 ปีที่ผ่านไป อะไรๆ เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยนะครับ รวมถึงตัว โรนัลโด้ ที่อายุกำลังย่างเข้าสู่ 37 ในเดือน ก.พ. ปีหน้า 

    เขาอาจไม่ถล่มตาข่ายเป็นกอบเป็นกำเหมือนอย่างช่วงแรกกับ ยูไนเต็ด ที่ได้เฉลิมฉลองแชมป์ใหญ่ร่วมกันถึงแปดรายการ 

    แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนผีมั่นใจได้เลยคือความมุ่งมั่นของเขา 

    อย่างที่เขาทำให้เห็นที่ เรอัล มาดริด ด้วยการตะบันเกิน 50 ประตูถึงหกฤดูกาลติดต่อกัน ในช่วงเวลาเก้าปีที่ร่ำรวยความสำเร็จใน เบร์นาเบว

    ความมุ่งมั่นอย่างที่หมายมาดจะลบคำสบประมาทว่าอยู่ในช่วง “ขาลง” และย้ายซบ ยูเว่ เพียงเพื่อช่วยให้ยอดขายเสื้อทะลุ 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเพิ่มยอดผู้ติดตามในโซเชี่ยลมีเดียวกว่าหกล้านเพียง 24 ชั่วโมงแรกหลังเปิดตัว ด้วยการสาดกระสุนรัวยับถึง 28, 37 และ 36 ประตูในสามซีซั่นหลังสุดแบบไม่เคยเหนื่อยล้ากับ “ม้าลาย”    

    

     เขาจะยังคงให้เต็มร้อยกับการทำงาน มันคือนิสัยของ โรนัลโด้ 

     ไม่มีใครรู้ได้ว่า หนังภาคสองของ โรนัลโด้ กับ ยูไนเต็ด จะจบแบบไหน มันจะแฮ็ปปี้เอนดิ้งหรือมีน้ำตา

    แต่ผมเชื่อว่า การเริ่มต้นใหม่ ณ จุดเดิมของเขา มันจะยังคงน่าติดตาม และสนุก ตื่นเต้น ไม่แพ้ภาคแรกแน่

    หรือหากแม้นมันจะจบแบบเศร้าๆ อย่างน้อย มันก็ทำให้แฟนผีได้ “ฟีลกู้ด” แบบเหลือเชื่อไปแล้ว

    ไม่มีดีลไหนอีกแล้วที่ทำให้ ยูไนเต็ด คึกคักได้เท่านี้ แฟนบอลยิ้มกว้าง, อดีตนักเตะตบเท้ายินดี, เหล่าผู้เล่นชุดปัจจุบันนับวันรอการได้ร่วมงานตำนาน, เจ้าของสโมสรเฝ้าฝันว่า นี่อาจเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดอีกครั้งเหมือนคราวที่เคยเอา ทอม เบรดี้ ยอดควอเตอร์แบ็กจอมเก๋า เข้ามาช่วยให้ แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส อีกหนึ่งทีมใต้อาณัติ ผงาดครองแชมป์ ซูเปอร์ โบว์ล 2020 พร้อมกับที่ เบรดี้ กลายเป็นผู้เล่นเอ็มวีพีประวัติศาสตร์ด้วยวัย 43 ปี 

    

    แต่คนที่อิ่มเอมใจเป็นที่สุด คงเป็น “เฟอร์กี้” ที่ลูกรักไม่ได้ทำร้ายหัวใจแฟนผี ด้วยการย้ายไปอยู่อีกฟากของเมือง 

                            เปาผี