เจอร์ราร์ด, รูนี่ย์ ก็เคยทำมาแล้ว ! 5 สตาร์พรีเมียร์ลีกที่พยายามย้ายทีมแต่สุดท้ายไม่สำเร็จ – สยามกีฬา

มหากาพย์การย้ายทีมของ แฮร์รี่ เคน ในเวลานี้ก็จบไปเรียบร้อย หลังนักเตะออกโรงยืนยันจะอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่อไป เนื่องจากยอมรับสภาพคงไม่มีทางได้ย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

หัวหอกวัย 28 ปี กระสันเหลือเกินที่จะอำลา “ไก่เดือยทอง” เพื่อไปเล่นกับ “เรือใบสีฟ้า” ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเหตุผลสำคัญก็เพื่อความสำเร็จในการคว้าแชมป์ในระดับสโมสร หลังเขาไม่เคยสัมผัสโทรฟี่แชมป์เลย

 

 อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนตัวเลขที่ สเปอร์ส ตั้งเอาไว้สูงถึง ง 160 ล้านปอนด์ (ราว 7,040 ล้านบาท) กอปรกับนักเตะเหลือสัญญากับทีมอีกหลายปี จึงเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ กัปตันทีมชาติอังกฤษ จะได้ย้ายไปเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

 

 จริงๆ แล้วมีสตาร์ลูกหนังในพรีเมียร์ลีกที่เคยคิดจะย้ายออกจากต้นสังกัดเพื่อไปหาความท้าทายใหม่ แต่สุดท้ายการย้ายทีมของพวกเขาไม่สำเร็จ และต้องอยู่กับรับใช้ต้นสังกัดตามข้อตกลงในสัญญาต่อไป 

สตีเว่น เจอร์ราร์ด

 เจอร์ราร์ด คือหนึ่งในนักเตะที่สาวก “เดอะ ค็อป” รักมากที่สุด และชื่อของเขายังคงอยู่ในหัวใจแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกอย่างไม่มีเสื่อมคลาย เพราะชายคนนี้นำความสำเร็จมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์มากมาย

 อย่างไรก็ตามมีช่วงแว๊บนึงในระหว่างซัมเมอร์ปี 2005 ที่ สตีวี่ จี มีความคิดที่จะย้ายหนี “เดอะ เร้ดส์” โดยเป้าหมายถึงการไปเป็นสมาชิใหม่ของ เชลซี โดยเขาได้ร้องขอย้ายทีม หลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” ยื่นข้อเสนอเข้ามาด้วยจำนวนเงิน 32 ล้านปอนด์ (ราว 1,408 ล้านบาท)

 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงแค่ 6  สัปดาห์ หลัง “กัปตันจี” ที่ตอนนั้นอายุ 25 ปี นำ “หงส์แดง” คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเอาชนะจุดโทษ เอซี มิลาน ซึ่งแน่นอนว่าข่าวนี้ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล ช็อกไปเลยทีเดียว

 อย่างไรก็ตามข้อเสนอของ เชลซี โดนปฏิเสธไป ขณะที่ เจอร์ราร์ด ยืนยันว่าตนไม่เคยมีความต้องการจะย้ายออกจากสโมสรที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่เยาว์วัย  และอีกไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็เซ็นสัญญาฉบับใหม่พร้อมรับค่าเหนื่อย 100,000 ปอนด์ (ราว 4.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ 

เวย์น รูนี่ย์

 เวย์น รูนี่ย์ เคยพยายามที่จะอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นกัน ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เป็นสองครั้งเลยทีเดียว 

 สำหรับความพยายามครั้งแรกของ “รูน” เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2010 เมื่อเขาไม่ยอมขยายสัญญาฉบับใหม่ โดยให้เหตุผลว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่สามารถการันตีเรื่องอนาคตในทีมกับเขาได้

 จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ รูนี่ย์ เปิดเผยว่าเขาได้ทำการติดต่อกับ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด โดยงานนี้ “รูน” ได้ส่งตัวแทนของเขาทำการเจรจากับทั้งสองสโมสรในช่วง 2-3 วัน เพื่อที่จะย้ายไปเล่นในลา ลีกา สเปน

 อย่างไรก็ตาม 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น รูนี่ย์ ตัดสินใจเซ็นสัญญาฉบับใหม่พร้อมกับนำทีคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาลนั้น

 สำหรับความพยายามครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในปี 2013 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ “ป๋า” ประกาศเกษียณตัวเองหลังจบซีซั่นดังกล่าว แต่สุดท้าย รูนี่ย์ ไม่ได้ไปไหน และเลือกอยู่กับ “ปีศาจแดง” ไปจนถึงปี 2017 ก่อนจะทำลายสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน 

 

ปาทริค วิเอร่า

 หนึ่งในตำนานของ อาร์เซน่อล ต้องมีชื่อของ ปาทริค วิเอร่า แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็มีความคิดที่จะทิ้ง “เดอะ กันเนอร์ส” เช่นกัน เพราะต้องการที่จะประสบความสำเร็จให้มากกว่าเดิมในฐานะนักเตะ

 หลังจบฤดูกาล 2000/2001 โดยที่ต้นสังกัดไร้แชมป์มาประดับบารมี วิเอร่า เริ่มเกิดความรู้สึกสับสนในใจ และมีความคิดที่จะย้ายออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่สุดท้ายนักเตะเลือกที่จะอยู่ร่วมหัวจมท้ายต่อไปจนถึงปี 2005

 ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ก่อนจะใช้เวลากับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน และ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับปัจจุบัน “ปั๊ต” ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมสโมสรคริสตัล พาเลซ

 แน่นอนว่าสาวก “ไอ้ปืนใหญ่” ไม่มีวันลืม วิเอร่า ไปได้แน่นอน เพราะเขาคือหนึ่งในขุนพลสำคัญของสโมสรชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบ “ไร้พ่าย” หรือ “อินวินซิเบิ้ล” เมื่อฤดูกาล 2003/2004 ภายใต้การกุมบังเหียนของ “ขงเบ้งลูกหนัง” อาร์แซน เวนเกอร์ 

 

หลุยส์ ซัวเรซ

 ทุกๆ คนยังจำกันได้ดีว่า หลุยส์ ซัวเรซ ต้องการที่จะแยกทางกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 หลังจากที่เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีความสุขกับชีวิตในประเทศอังกฤษอีกต่อไป

 ในเวลานั้นมีรายงานว่า หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย พร้อมที่จะโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อไปเล่นกับ อาร์เซน่อล ซึ่งสร้างเรื่องดังกระฉ่อนด้วยการยื่นข้อเสนอ 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,760 ล้านบาท) +1 ปอนด์ (ราว 44 บาท) ตามเงื่อนไขค่าฉีกสัญญาของนักเตะ

 อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ด ได้พยายามโน้มน้าวให้ ซัวเรซ ปฎิเสธ อาร์เซน่อล และอยู่ช่วยต้นสังกัดต่อไปอีก 1 ฤดูกาล สุดท้ายนักเตะเลือกที่จะอยู่กับสโมสรต่อไป และในช่วงปลายซีซั่นนั้น “เดอะ เร้ดส์” ก็เฉียดเข้าใกล้แชมป์ลีกมากๆ ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญนั่นก็คือ “สตีวี่ จี” ลื่น ด้วย

 กระนั้นคนเราเมื่อหัวใจต้องการจะโบยบินก็ไม่มีใครห้ามได้ สุดท้าย อดีตดาวเตะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็ย้ายไปเล่นให้ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า โดยได้ประสานงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ กับ เนย์มาร์ จนนำต้นสังกัดคว้าแชมป์มากมาย 

 

แฮร์รี่ เคน

 ความตั้งใจของ แฮร์รี่ เคน ที่จะย้ายออกจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แสดงให้เห็นมาตลอดในช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมา และยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับ แกรี่ เนวิลล์ ว่าต้องออกไปหาความสำเร็จกับทีมอื่น เพราะ สเปอร์ส ให้สิ่งนี้กับเขาไม่ได้

 ในช่วงเวลานั้นมีการเปิดเผยว่า เคนกับ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร ได้ทำสัญญาลูกผู้ชายว่า จะปล่อยนักเตะออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่สุดท้ายต้นสังกัดไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ และยื้อให้เขาอยู่กับทีมต่อไป  

 กัปตันทีมชาติอังกฤษ หายตัวไปหลังจากมีคิวที่จะต้องมารายงานตัวกับต้นสังกัด โดยในเวลานั้นสื่ออ้างว่านักเตะพยายามทำสงครามเย็นเพื่อหวังให้ สเปอร์ส ปล่อยตัวไป แต่สุดท้ายมีการยืนยันว่า เหตุผลที่ เคน เบี้ยวซ้อมกับทีมเพราะอยู่ในช่วงกักตัว หลังเดินทางกลับมาจากประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยอมรับว่าอยากได้ เคน มาเสริมทัพจริงๆ แต่ด้วยค่าตัวสูงถึง 160 ล้านปอนด์ พร้อมทั้งนักเตะยังมีสัญญาเหลืออยู่กับ “ไก่เดือยทอง” อีกหลายปี จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่การย้ายทีมจะเกิดขึ้น

 สุดท้ายก็อย่างที่เราๆ ท่านๆ รู้กัน เคน ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าจะขออยู่กับ สเปอร์ส ต่อไปอย่างน้อยๆ ก็ใน “ฤดูกาลนี้” แต่ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ลองเดาดูก็น่าจะรู้….

    ทอมเม้ง