อันโตนิโอเหมาสอง! เวสต์แฮมโหดทุบเลสเตอร์10คน แซงสิงห์-หงส์ขึ้นจ่าฝูง – สยามกีฬา

มิชาอิล อันโตนิโอ งัดฟอร์มสุดดุหลังเหมาคนเดียวสองประตู และจ่ายอีกหนึ่งพา เวสต์แฮม ไล่ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เหลือแค่ 10 คน 4-1 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เก็บชัยสองนัดรวดมี 6 แต้มเต็มแซงสิงห์และหงส์ขึ้นนำจ่าฝูงด้วยประตูยิงที่มากกว่า พร้อมทำสถิติยิง 49 ประตูในสีเสื้อของขุนค้อนแซงหน้า เปาโล ดิ คานิโอ เป็นดาวซัลโวตลอดกาลสโมสรคนใหม่

    พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดมันเดย์ ไนท์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เวสต์แฮม ที่เปิดหัวไดร้อนแรงบุกไปอัด นิวคาสเซิ่ล 4-2 กลับมาเฝ้ารัง ลอนดอน สเตเดี้ยม รับมือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ผลงานดีไม่แพ้กันหลังเปิดสนามเฉือนเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

    เดวิด มอยส์ กุนซือขุนค้อนยึดขุมกำลังชุดเดิมที่บุกคว้าสามแต้มเหนือทัพ “สาลิกาดง” เมื่อวีกที่แล้ว มิชาอิล อันโตนิโอ ยังยืนหน้าเป้าโดยมี จาร์ร็อด โบเว่น, ซาอิด เบนราห์ม่า และ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ปั้นเกมรุก

    เช่นเดียวกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ไม่เปลี่ยนทีมเช่นกันใช้ชุดเก่งจากนัดที่แล้ว เจมี่ วาร์ดี้ ฮีโร่ซัดประตูชัยเหนือทัพหมาป่ายังยืนหน้าเป้าล่าตาข่าย มี  อโยเซ่ เปเรซ, เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ สนับสนุน ขณะที่ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด แนวรับคนใหม่ที่เกมที้่แล้วลงเป็นสำรอง เกมนี้ไม่มีรายชื่อสำรองเนื่องจากมีอาการเจ็บ อีกท้้งข่าวดีคือได้ ทิโมธี คาสตาญ หายเจ็บมีชื่อเป็นสำรองข้างสนาม

    เริ่มเกมมาแค่ 6 นาทีแรก เจ้าบ้าน “ขุนค้อน” ได้ทักทายใส่ก่อนเลยหลังบอลชิ่งเข้ามาหน้าประตูก่อนมาเข้าทาง ซาอิด เบนราห์ม่า วิ่งมาปั่นด้วยขวาแต่ยังไปเข้ามือ คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล 

     ลูกทีมของ เดวิด มอยส์ โหมบุกเข้าใส่และสร้างโอกาสได้อีกในนาที 14 หลัง ริคาร์โด้ เปเรยร่า สกัดมาเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ วิ่งมากดกลางประตูเหินคานออกไป

    อีกสองนาทีถัดมา มิชาอิล อันโตนิโอ ได้บอลกลางสนามก่อนควบบอลเข้าไปกดบนเส้น 18 หลาทว่ายิงไม่ดีบอลออกหลังไปแบบหมดลุ้น

    นาที 26 เวสต์แฮม มาชิงขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เจมี่ วาร์ดี้ ทำเสียบอลกลางสนาม บอลมาถึง โบเว่น ให้ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ก่อนป้ายออกซ้ายให้ ซาอิด เบนราห์ม่า ครอสเร็วมาหน้าประตูให้ ฟอร์นัลส์ โฉบมาหักยิงด้วยซ้ายเสียบโคนเสาไกลเข้าไป

    อีก 3 นาทีต่อมา “ขุนค้อ้น”เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองหลัง ทัพจิ้งจอกเคลียร์บอลไปเข้าทาง ปาโบล ฟอร์นัลส์ ครอสมาให้ โทมัส ซูเช็ค โขกหลุดเสาแรกออกไปหวุดหวิด

    นาที 31 โอกาสแรกของ เลสเตอร์ เกือบได้ลุ้นตีเสมอ หลัง อโยเซ่ เปเรซ เลี้ยงแหวกบอลเข้าไปแล้วแทงให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า หลุดไปกดมุมแคบเสาแรกออกไป

    นาที 40 สถานการณ์ของ เลสเตอร์ แย่ลงไปอีกเมื่อต้องมาเหลือแค่ 10 คนหลัง อโยเซ่ เปเรซ โดนไล่ออกจากสนาม จากจังหวะที่เข้าไปย้ำใส่ขา ปาโบล ฟอร์นัลส์ ซึ่งหลังจากที่ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เช็กจากจอมอนิเตอร์ข้างสนามก่อนเดินมาควักเป็นใบแดงโดนตรงไล่ปีกชาวสแปนิชออกไป

    จบครึ่งแรก เวสต์แฮม ขึ้นนำ เลสเตอร์ 1-0

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และนาที 52 เจ้าบ้านเกือบได้เม็ดที่สองนำห่าง หลัง ปาโบล ฟอร์นัลส์ บรรจงเปิดบอลไปเสาไกลให้ มิชาอิล อันโตนิโอ ขึ้นโขกบอลแต่ยังไม่ผ่านมือของ คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทัพจิ้งจอกไว้ได้

    กระนั้น นาที 56 เวสต์แฮม มาพังประตูนำห่างเป็น 2-0 จนได้ จากความผิดพลาดของ ซากลาร์ โซยุนชู ที่ส่งคืนหลังพลาดโดน มิชาอิล อันโตนิโอ ตัดบอลได้ก่อนจ่ายคืนเข้ากลางให้  ซาอิด เบนราห์ม่า วิ่งมาซัดเข้าไปไม่พลาด 

    เจ้าบ้านยังดาหน้าเปิดเกมรุกมาต่อเนื่อง นาที 63 ซาอิด เบนราห์ม่า ไหลเข้ากลางให้ มิชาอิล อันโตนิโอ อัดด้วยขวาไม่ถึง 18 หลาบอลพุ่งกำลังจะเบียดเสาเข้าอยู่แล้วแต่ยังโดน คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล พุ่งปัดมือเดียวออกหลังไปได้อย่างเหลือเชื่อ

    นาที 70 แฟนบอลเดอะ ฟ็อกซ์มาได้เฮบ้าง หลัง เลสเตอร์ ซิตี้ ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน ตวัดบอลเข้ากลาง แพทสัน ดากา ที่เพิ่งลงมายิงไม่โดน เลยไปเข้าทาง ยูริ ตีเลมันส์ ซัดไปติดบล็อค อารอน เครสส์เวลล์ ก่อนมาเข้าทาง ตีเลมันส์ อีกทีตามซ้ำเข้าไป 

    กระนั้นในนาที 80 “ขุนค้อน” มายิงนำห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ เดแคลน ไรซ์ ครอสบอลจากซ้ายเข้ามาให้ มิชาอิล อันโตนิโอ กลับตัวตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งเสียบมุมตาข่ายเข้าไป เป็นประตูที่ 48 ของ “ขุนค้อน” ทำสถิติแซงหน้า เปาโล ดิ คานิโอ ตำนานแข้งของเวสต์แฮมที่ทำไว้ 47 ประตู

    เท่านั้นไม่พอ นาที 84 เจ้าบ้านขุนค้อนมานำโด่งเป็น 4-1 และเป็นเจ้าเก่า มิชาอิล อันโตนิโอ ที่รับลูกผ่านของ วลาดิเมียร์ ซูฟัล ก่อนดีดข้ามหัว แดเนี่ยล อมาร์ตีย์ อย่างเหนือชั้นเข้าไปจิ้มบอลผ่านตัว คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ พร้อมลูกที่ 49 ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของทีมคนใหม่

    จบเกม เวสต์แฮม ฟอร์มสุดโหดไล่ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 4-1 เก็บชัยสองนัดติด มี 6 แต้มเต็ม แต่แซงทั้ง เชลซี และลิเวอร์พูลขึ้นนำจ่าฝูงด้วยประตูยิงที่มากกว่า 

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        

    เวสต์แฮม ยูไนต็ด (4-2-3-1) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ – วลาดิเมียร์ ซูฟัล, เคร็ก ดอว์สัน, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อารอน เครสส์เวลล์ – โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์ – จาร์ร็อด โบเว่น, ซาอิด เบนราห์ม่า (มาร์ก โนเบิ้่ล น.89) , ปาโบล ฟอร์นัลส์ – มิชาอิล อันโตนิโอ (อังเดร ยาร์โมเลนโก้ น.89) 

    ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์

    เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, แดเนี่ยล อมาร์ตีย์, ซากลาร์ โซยุนชู, ลุค โธมัส – ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ – อโยเซ่ เปเรซ (ใบแดง น.40), เจมส์ แมดดิสัน (บูบาการี่ ซูมาเร่ น.81) , ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (แพทสัน ดาก้า น.65) – เจมี่ วาร์ดี้ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.81) 

    ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส 

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์