“บิ๊กแชมป์” แจงละเอียดรูปแบบเตะ “บัลเบิล แอนด์ซีล” – สยามกีฬา


ฟังให้ชัดๆ ! “บิ๊กแชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล แจงละเอียดยิบรูปแบบเตะ “บับเบิล” ให้แฟนบอลได้เข้าใจ เผยเอซีแอลที่ผ่านมาเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของที่ทำบับเบิลจริงๆเท่านั้น ชี้ไทยลีกไม่ได้เตะ 3-4 วีกจบ แต่ต้องเตะถึง 15 นัดต่อเลก ยันชัดไทยลีกเตะบับเบิลได้ แต่ผู้รับภาระสุดท้ายคือสโมสร ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการมากักตัวอยู่ในบับเบิลมหาศาลจริงๆ มองเป้าการเตะบับเบิลมันคือวิธีสุดท้ายหากไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

    หลังมีแฟนบอลส่วนใหญ่ออกมาแสดงความคิดเห็นต้องการให้ศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021-22 กลับมาฟาดแข่งกันโดยเร็วที่สุด และหากเตะไม่ได้ก็เสนอให้ใช้วิธีแบบ “บัลเบิล แอนด์ซีล” ที่เคยทำในการจัด “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021” รอบแบ่งกลุ่ม ที่ผ่านมา เพื่อให้ฟุตบอลลีกของเมืองไทย ได้เดินหน้าต่อไปได้ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในประเทศไทยเร็วๆนี้

    ล่าสุด “บิ๊กแชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาประธานบริหาร บ.ไทยลีก จำกัด ได้ออกมาเปิดเผยแบบละเอียดยิบถึงการจัดแบบ “บัลเบิล แอนด์ซีล” ว่า “อยากจะเรียนให้แฟนบอลได้เข้าใจนะครับ การทำบับเบิลแบบที่เราต้องควบคุมแบบเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 สโมสรทำได้ดีมาก ไม่มีการแพร่ระบาดสามารถควบคุมไปตามแผนได้ แต่การทำบับเบิลแบบนั้น มันมีภาระที่เป็นค่าใช้จ่าย มีรายละเอียดเยอะมาก เช่น โรงแรมจะต้องเป็นแบบปิด นั่นหมายความว่าสโมสรต้องไปเหมาโรงแรมกันมา การเดินทางระหว่างที่พักไปสนามซ้อม ไปสนามแข่ง ต้องอยู่ในระบบปิดทั้งหมด คนขับรถ แม่บ้านที่อยู่ในโรงแรม พวกนี้ถือว่าต้องอยู่ในบับเบิลหมด”

    “ดังนั้นคนที่อยู่ในบับเบิลจะมีผู้เกี่ยวข้องเยอะมาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุข มันมีรายละเอียดต่างๆ มากมาย มากกว่าที่แฟนบอลจะเห็น โดยสิ่งที่แฟนบอลได้เห็นที่ผ่านมาในเอซีแอล มันเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของที่ทำบับเบิลจริงๆ ซึ่งไทยลีกเราได้ประสานงานร่วมกับสโมสรมาโดยตลอด เรารู้ว่าการทำบับเบิลในลักษณะแบบนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเป็นอย่างยิ่ง”

    “บิ๊กแชมป์” ยังกล่าวต่อไปว่า “ถ้าถามว่าไทยลีกทำได้ไหม ไทยลีกทำได้ครับ เสนอได้ แต่คนที่ต้องเป็นผู้ที่รับภาระสุดท้ายคือสโมสร ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการมากักตัว ในการมาอยู่ในบับเบิล ซึ่งลีกของเราใช้เวลาในการแข่งขันแต่ละเลกไม่ใช่ 3-4 สัปดาห์ มันแข่งขันถึง 15 แมตช์เดย์ด้วยกัน ซึ่งในรูปแบบการจัดแข่งขันแบบนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับการจัดการแข่งขันแบบลีก”

    “ซึ่งทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันนั้นมีจำนวนมาก เราไม่ได้อยากจะให้มันเป็นภาระของสโมสร ไม่อยากให้เป็นภาระของสมาคมฯ ในเรื่องที่ต้องมาดูแลค่าใช่จ่ายที่จักแข่งขันกันมากขึ้นจนคิดว่าสโมสรก็ไม่สามารถแบบรับตรงนั้นได้ รวมไปถึงบรรยากาศของคนที่ต้องอยู่ในบับเบิล ซึ่งต้องบอกว่ามันคือการบับเบิลจริงๆเลย คุณเดินออกมานอกประตูโรงแรมก็ไม่ได้ ผมว่าบรรยากาศตึงเครียดของนักกีฬาผมว่ามันไม่น่าจะเอื้อกับการจัดแบบลีก”

    “สุดท้ายนี้เราคิดมาตรการความเป็นไปได้ในรูปแบบอื่นๆก่อนดีกว่า แต่หากมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ค่อยกลับไปใช้วิธีบับเบิลครับ” รักษาประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด กล่าวทิ้งท้าย

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport

เพิ่มเพื่อน