“เรื่องที่ดีที่สุดก็คือคืนนี้เรากลับไปไม่ต้องเห็นพวกสีฟ้าของแมนเชสเตอร์ออกมาเฉลิมฉลองกัน”เป็นประโยคแรกที่กุนซือฝั่งสีแดงของแมนเชสเตอร์กล่าวผ่านไมโครโฟนเมื่อวันอาทิตย์
นี่คือทุ้มทำนองที่ทำให้นึกถึงเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยนิยามเพื่อนร่วมเมืองเอาไว้ว่า’noisy neighbour’
มันอาจดูไม่แปลกประหลาดหรือดูง่ายๆกับสามแต้มเต็มที่ขุนพลปีศาจแดงเก็บได้จากวิลล่า พาร์คเนื่องจากเป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่พวกเขาพลิกสถานการณ์แซงกลับมา…ยอดรวมล่าสุดก็กวาดถึง 31 คะแนนไปแล้วยามต้องตกเป็นรองไปก่อน
หลังเกมลุค ชอว์เป็นตัวแทนของทีมออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องแต่งตัวตอนพักครึ่งซึ่งทีมตามหลังอยู่0-1″เจ้านายย้ำกับเราว่าเราเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาไม่รู้เท่าไรแต่เราผ่านมาได้เพราะเราเป็นทีมที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ขอให้ทุกคนจงเชื่อในตัวเองดังนั้นเมื่อเราตามตีเสมอได้ เราทั้งหมดรู้ทันทีว่าเราสามารถเอาชนะได้”
ใช่ กี่ทีแล้วที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาแสดงคาแรกเตอร์บางอย่างของความเป็นโค้ชที่ดี แน่นอนมันย่อมยอดเยี่ยมกว่านั้นหากสามารถออกสตาร์ทได้ดีพังตาข่ายขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบ
ก็อยากให้กวาดสายตาดูโดยรอบว่ามีสักกี่ทีมที่ทำได้อย่างนั้น?
ก็อยากให้ย้ายสายตาดูอันดับในตารางกันด้วย…
ทุกปีนับแต่สิ้นยุคเซอร์ อเล็กซ์ก็แทบไม่เคยมีความสงบสุขภายในอาณาจักรสีแดง เคยมีแฟนบอลลงทุนจ้างเฮลิคอปเตอร์พร้อมทำป้ายสลักข้อความ’specialist in failure’แขวนเพื่อประจานเอ็ด วู้ดเวิร์ด, หนังสือแฟนซีนที่ขายหน้าสนามก็มีบางฉบับที่วิจารณ์ความล้มเหลวของสโมสรตั้งแต่บนลงล่างรวมถึงในสื่อโซเชี่ยลก็เต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวจากเหล่าเร้ด อาร์มี่ส์
รอบสองปีมานี้บนริมฝีปากใครหลายคนก็มักอ่านได้ตรงกัน”เมื่อไรโซลชาจะไปซะที?”(ขณะที่อีกบางริมฝีปากก็ชอบพูดเชิงล้อเลียน”เซฟโอเล่”)
ถูกต้อง มันมีบางช่วงที่คล้ายว่ากำลังเกิดขึ้นอย่างต้นซีซั่นที่ผ่านมาก็พาทีมออกสตาร์ทตะกุกตะกัก เริ่มด้วยการเสียท่าคารังให้คริสตัล พาเลซกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สส่วนบางเกมที่ชนะก็ดูหืดจับ ต่อมาก็มีแพ้แบบสมควรเขกกะโหลกให้ทีมเล็กๆจากตุรกีในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอันเป็นเหตุผลให้ต้องตกรอบในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามชายที่ชื่อโอเล่ กุนนาร์ โซลชาก็เอาตัวรอดมาได้เสมอ ไม่ใช่แค่ครั้งนี้แต่หลายครั้งแล้วเมื่อลองย้อนกลับไปตั้งแต่เข้ามานั่งเก้าอี้สีแดงตัวที่มีความกดดันที่สุดในโลก
มันไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายแน่นอนครับ
ตรงไปตรงมาผมเองก็เคยแอบเชียร์เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ตอนที่ยังว่างงานว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกประการแต่ถึงตรงนี้ก็ได้แต่ต้องยอมรับว่าตัวเองประเมินโซลชาต่ำเกินไป เขาไม่ใช่แค่อดีตหัวหอกผู้ใช้ปลายสตั๊ดสะกิดบอลเปลี่ยนทางตอนทดบาดเจ็บนำถ้วยบิ๊กเอียร์มาประดับที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดจนเป็นขวัญใจของกองเชียร์ทุกชีวิตแต่เขาเองก็ได้พิสูจน์มาพอสมควรแล้วว่าทำไมเขาสามารถจะเป็นคนๆนั้นของแฟนผี
แมนฯยูไนเต็ดทีมนี้เกาะกลุ่มอยู่สองอันดับแรกของตารางมาตลอดนับแต่ตอนสิ้นปีโดยยังพ่ายเพียง 1 เกมเท่านั้นรอบ 28 เกมหลังสุดในลีก(ถึงน่าเจ็บใจตรงเกมนัดนั้นคู่แข่งคือเชฟฯยูไนเต็ดก็ตาม)ต่อมาคิดแต้มเฉลี่ยเมื่อผ่านครบ 34 เกมก็ทำได้พอๆหรือดีกว่าสมัยที่เฟอร์กี้กุมบังเหียนถึง 6 จาก 10 ฤดูกาลแรก
โอเค ต่างยุคต่างเวลาก็ไม่น่าใช้ไม้บรรทัดเดียวกันมาตีเส้นได้แต่มันก็สะท้อนอะไรได้บางอย่างจริงไหม? นอกจากนั้นเอาหลักไมล์เดียวกันตรงนี้จากซีซั่นที่แล้วมาวางขนาบก็ชัดเจนถึงคำว่าพัฒนาการ
34 เกมปีที่แล้วผีแดงอยู่อันดับ 5 เก็บไปได้แค่ 58 แต้มขณะที่ตอนนี้อยู่อันดับ 2 มีทั้งหมด 70 แต้มไปแล้ว
ใช่ สโมสรเจ้าของแชมเปี้ยนส์ 20 สมัยไม่ควรพึงพอใจกับการเป็นแค่’พระรอง’หรือยิ้มได้กับแค่การได้ตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ลีก ที่สำคัญพวกเขาย่อมไม่แฮปปี้อยู่แล้วที่ทุกวันนี้ต้องตกใต้ร่มเงาของซิตี้เพียงแต่พิจารณาจากผลงานของโซลชาล้วนๆต้องถือว่าเขาทำได้เกินความคาดหมาย
ก่อนเปิดฤดูกาลใครเล่าจะคิดว่าถึงตรงนี้พวกเขาอยู่เหนือกว่าลิเวอร์พูล 13 แต้ม, ทิ้งห่างสเปอร์ส 14 แต้มและนำหน้าอาร์เซนอล 18 แต้ม??
ในเวทียุโรปถึงถ้วยใบเล็กยูโรปา ลีกแต่ก็ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยซึ่งถ้ากำราบบียาร์เรอัลได้ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ก็จะเป็นการเติมบารมีให้กับโซลชายิ่งขึ้น
มาถึงเรื่องของสไตล์ที่มีบางคนมักออกมายักไหล่ว่าแมนฯยูไนเต็ดชุดนี้ไม่มีเอกลักษณ์ในการนำเสนอเฉพาะตัว ก็ใช่ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเน้นต่อบอลตามช่องมาแต่ไหนแต่ไร, บอลแบบเยอร์เก้น คล็อปป์ก็เพรสซิ่งเข้าหาเร็วไม่ให้คู่ต่อสู้ได้หายใจหรือว่าโธมัส ทูเคิ่ลเองมาอยู่เชลซีก็ไม่สนใจว่าบอลจะน่าเบื่อเพราะที่ต้องการเป็นผลลัพธ์
เอาสถิติมาตีแผ่ : สโมสรโลโก้ผีมีค่าเฉลี่ยสร้างโอกาสต่อเกม 14.2 ครั้ง เป็นรองก็แค่เรือใบทีมเดียวแม้ว่าพวกเขาจะมีค่าเฉลี่ยครองบอลต่อเกมเพียง 54.8%ซึ่งทีมอย่างลีดส์(55.3%)หรือลิเวอร์พูล(59%)ทำได้มากกว่าก็ตาม
เพราะอะไร?
“พวกเราแค่จะพยายามเล่นให้ดีที่สุดทุกเกม ในทุกๆเกมเรามีการวางแผนเพื่อเตรียมไว้รับมือคู่แข่งเสมอ หลักการณ์สำคัญของเราก็คือต้องรู้ว่าจุดเด่นของนักเตะที่เรามีจะสามารถทำอะไรออกมาได้บ้าง”โอเล่เคยพูดเอาไว้
ข้อนี้เองมีส่วนทำให้พวกเขาไม่แพ้เกมเยือนติดต่อกันถึง 25 เกมในลีกหรือคิดออกมาเท่ากับ 1 ปีกับอีก110วันเนื่องจากในบางสนามคุณย่อมไม่สามารถเปิดหน้าแลกหมัดต่อหมัดได้จึงจำเป็นต้องเน้นความรัดกุมและรอคอยโอกาสของตัวเอง
โซลชาเองก็ยังมีอีกบางมุมที่คล้ายเฟอร์กี้ตรงไม่นิยมออกมาวิจารณ์ลูกทีมต่อหน้าสื่อ ก็หลังหายนะให้ทีมบ๊วยอย่างดาบคู่1-2เมื่อเดือนมกราคมก็ออกมาปกป้องอองโตนี่ มาร์กซิยาลทั้งที่ตอนนั้นกองหน้าชาวฝรั่งเศสตกเป็นเป้าระบายของกองเชียร์”ผมคิดว่าทั้งทีมต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ผมไม่คิดว่าอองโตนี่ก็ต้องยกเว้นเช่นกันแต่การแพ้ในวันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องโดนกันหมดเพราะว่าเราเล่นกันได้แย่”
พลิกอีกด้านข้อนี้ก็เป็นความแตกต่างของเขากับโชเซ่ มูรินโญ่เช่นเดียวกัน
เคสของพอล ป็อกบาเองซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้กลับมาโชว์ฟอร์มโดดเด่นก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากเจ้านาย ไม่ใช่ออกมาตวาดว่าหรือเหน็บแนมโดยโซลชาเคยอธิบายถึงสาเหตุที่ป็อกบาทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานช่วงแรกมาจากสภาพความฟิตของซีซั่นที่ไม่ปกติรวมถึงเคยติดโควิด-19มาอีกด้วย
แมนฯยูไนเต็ดทีมนี้เก่งเพราะบรูโน่ เฟอร์นานเดส?
อืมมมม
ก็ไม่ใช่ความลับว่านับแต่สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสย้ายมาก็มีเอฟเฟกต์ถึงทีมซึ่ง 27 ประตูกับ 17 แอสซิตส์เฉพาะฤดูกาลนี้ก็ตอกย้ำทุกสิ่งอย่าง ก็เอาจริงๆว่าหากจะมีกุนซือคนใดสร้างทีมโดยมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเป็นจุดศูนย์กลางก็ย่อมเป็นสิทธิชอบธรรมของเขา
นอกจากพัฒนาการของทีมก็ยังเห็นรอยย่ำที่ก้าวไปข้างหน้าของนักเตะอย่างชอว์, อารอน แวน-บิสซาก้าและสกอตต์ แม็คโทมิเนย์
รายเมสัน กรีนวู้ดก็เช่นกันเคยฟอร์มตกไปพักใหญ่เคยยิงได้แค่ลูกเดียวจาก 26 เกมทุกถ้วยแต่ก็เป็นโซลชาอีกที่ให้การสนับสนุนดาวรุ่งวัย19เต็มที่โดยมักพูดเสมอว่า”เป็นดาวยิงเต็มด้วยสัญชาติญาณที่หาได้ยาก”จนช่วยให้กลับมามีความมั่นใจกระหน่ำไป 7 ลูกจาก 10 เกมหลัง
นี่ก็ยังเป็นครั้งแรกด้วยที่สโมสรสีแดงแห่งแมนเชสเตอร์ได้เข้าร่วมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกติดต่อกันสองซีซั่นนับแต่หมดจากช่วงยิ่งใหญ่ภายใต้เซอร์ อเล็กซ์
“ไม่มีใครมาสนใจเรื่องโปรเจกต์หรือไอเดียกันแล้ว ตอนนี้ทุกคนสนใจแต่ผลการแข่งขัน ขอแค่ชนะเป็นพอหรือไม่คุณก็อาจโดนไล่ออก”เป๊ปเคยกล่าวเรื่องจริงของเกมลูกหนังยุคนี้เอาไว้
ถอยหลังมาสักก้าวหรือสองก้าวแล้วมองไปยังโรงละครแห่งหนึ่ง…
ด้านนอกที่เต็มไปด้วยตะกอนขุ่นเคืองของแฟนบอลที่รวมตัวประท้วงขับไล่เจ้าของ, พวกผู้บริหารหลายคนก็เชี่ยวชาญแต่การหาเงินไม่ได้ลึกซึ้งเกมฟุตบอลเท่าไร เหนืออื่นใดนี่เป็นงานที่เคยมีคนผ่านเข้ามาแล้วออกไปด้วยเหตุผลสั้นๆ”คุณดีไม่พอกับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้”
ครับ ยอมรับกันซะทีว่าโซลชาเป็นโค้ชที่ดีจนถึงดีมากในหลายแง่
แน่นอนว่าคงไม่มีอสูรตนใดอยากเห็นเพื่อนบ้านสีฟ้าส่งเสียงดังแต่การจะทำให้ทีมกลับไปผงาดเป็นแชมป์ได้อีกนั้นต้องอาศัยการร่วมมือจากทุกๆฝ่ายโดยเฉพาะจากด้านบนที่ต้องเต็มที่เรื่องการซื้อขาย
คุณครูพละ? ตำนานสโมสร? เพชฌฆาตหน้าทารก?
เขาคือผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือคนที่ควรได้โอกาสและแรงสนับสนุนบนเก้าอี้สีแดงตัวนั้นต่อไปเพื่อเป้าหมายระยะยาว…
“ไก่ป่า”
Add friend ที่ @Siamsport