จำนวนเกมมากที่สุดที่ลิเวอร์พูลลงเล่นในฤดูกาลเดียว

ลิเวอร์พูลกลับมาเริ่มต้นฤดูกาล 2021-22 อย่างตื่นเต้นในวันเสาร์นี้ โดยทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงเดินหน้าไล่ตามความสำเร็จทุกรายการที่พวกเขาลงเล่นในฤดูกาลนี้

หลังจากที่ได้ชูถ้วยคาราบาว คัพ เป็นสมัยที่เก้าที่เวมบลีย์ในเดือนกุมภาพันธ์ หงส์แดงจะไล่ล่าถ้วยรางวัลสามใบที่อยู่รออยู่ในช่วงท้ายฤดูกาล

พวกเขาตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงอยู่หนึ่งแต้ม กับเก้าเกมที่ยังเหลือในพรีเมียร์ลีก,  พบกับเบนฟิก้าในสองเลกของแชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ และพบกับแมนฯ  ซิตี้ในเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่างกลางโปรแกรมเดือนเมษายนที่น่าเหลือเชื่อ

จะมีเกมมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้รวม 63 เกมไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม หากลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทั้งแชมเปียนส์ลีก และเอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พวกเขาเคยไปถึงในฤดูกาล 2015-16

กับเกมฟุตบอลจำนวนมากให้ลงเล่น และยังคงต้องลงเล่นในฤดูกาลนี้ เราแปลกใจไม่น้อยกับตัวเลขเกมมหาศาลที่หงส์แดงเคยลงเล่นในฤดูกาลเดียว

เช่นเคยเราต้องพึ่งพา เกด เรียนักสถิติของสโมสรจะมาตอบคำถามนี้…

1984-85 – 64 เกม

การเข้ารอบฟุตบอลโลก และการเจอกันแบบพิเศษนัดเดียวในฤดูกาล 1984-85 ทำให้ลิเวอร์พูลของโจ เฟแกน รั้งอันดับที่ 3 ของตัวเลขสูงสุดในฤดูกาลเดียวของประวัติศาสตร์สโมสร

หงส์แดงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ และไปถึงเกมรีเพลย์กับแมนฯ ยุไนเต็ดที่พวกเขาพ่ายหวุดหวิด 1-2 ในเกมที่เมน โร้ด

การที่ลิเวอร์พูลได้ชูถ้วยยูโรเปียน คัพ สมัยที่ 4 ในปีก่อนหน้านั้น ทีมของเฟเกนต้องเผชิญหน้ากับอินดิเพนเดียนเต้ในเวิลด์ คลับ แชมเปียนชิพ และหลังจากนั้นกับยูเวนตุสในซูเปอร์ คัพ ทั้งสองเกมจบลงด้วยความพ่ายแพ้ เช่นกันกับแชริตี้ ชิลด์ ตอนเริ่มต้นฤดูกาล

แนวรับของทีมแชมป์ยูโรปช่วยพาทีมไปสุดทางจนถึงนัดชิงชนะเลิศด้วยเช่นกัน ก่อนที่มันจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล สเตเดียม

บรูซ์ กร็อบเบลาร์ และฟิล นีล ลงตัวจริงในทุกๆ เกม

1991-92 – 64 เกม

การเข้ารอบฟุตบอลถ้วยในประเทศเพิ่มโปรแกรมให้หงส์แดงระหว่างฤดูกาลสุดท้ายก่อนการถือกำเนิดของพรีเมียร์ลีก

ทีมของแกรม ซูเนสมีเกมเบียดเสียด 5 นัดในลีก คัพที่พวกเขาตกรอบที่ 4 ด้วยมือปีเตอร์โบโร่ และมีโปรแกรมยิ่งกว่าในฤดูกาลที่ไปจนสุดทางของเอฟเอ คัพ พวกเขาต้องรีเพลย์ 3 เกมจาก 8 นัดระหว่างเส้นทางสู่เวมบลีย์ รวมถึงรอบรองชนะเลิศที่สูสีกับพอร์ตสมัธที่ต้องดวลจุดโทษ

เหนือสิ่งอื่นใดคือโปรแกรม 42 เกมในลีก มี 8 เกมระดับทวีปในการที่สโมรกลับไปลงเล่นฟุตบอลยุโรปจาก 8 เกมยูฟา คัพ ที่พวกเขาตกรอบที่ 4 ในระบบสองเลก

อีกครั้งที่ไม่มีใครเหนือว่ากร็อบเบลาร์ที่ลงเล่นรวม 55 เกม

1972-73 – 66 เกม

เกมบอลถ้วยมากถึง 24 เกมในฤดูกาลที่ทีมของบิลล์ แชงคึลีย์ได้ดับเบิลแชมป์ลีก และยูฟา คัพ โดยมีเกมรีเพลย์ 4 รอบติดต่อกันในลีก คัพ และสองเกมในเอฟเอ คัพ ที่พวกเขาตกรอบก่อนจะได้ลุ้นถ้วยรางวัล

อย่างไรก็ตามพวกเขาโชคดีกว่าในยุโรป ด้วยการผ่านเกมสองเลก 6 รอบก่อนชูถ้วยยูฟา คัพ สมัยแรกโดยชนะโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคสกอร์รวม 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศ และได้แชมป์ลีกโดยมีแต้มห่าง 3 แต้ม

มีนักเตะเจ็ดคนที่ลงเล่นมากกว่า 62 เกม รวมถึง 3 คนที่ลงเล่นทุกนัดคือเอียน คัลลาแฮน, คริส ลอว์เลอร์ และลาร์รี ลอยด์

1983-84 – 67 เกม

เหนือกว่าฤดูกาลใดคือฤดูกาลแรกของเฟแกนในการคุมทีมที่หงส์แดงคว้าทริปเปิลแชมป์ลีก, ยูโรเปียน คัพ และลีก คัพ โดยรายการหลังต้องทดสอบความทรหกดเมื่อต้องการถึง 13 กเม รวมถึงเกมรีเพลย์นัดชิงกับเอฟเอ คัพ ที่สุดท้ายลิเวอร์พูลกลายเป็นผู้ชนะ

พวกเขายังไปจนสุดทางของยูโรเปียน คัพ โดยเขี่ยโอเดนเซ่, แอธเลติก บิลเบา, เบนฟิก้า และดินาโม บูคาเรสต์ ในเกมแบบสองเลก ก่อนที่จะเอาชนะโรม่าในการดวลจุดโทษที่สตาดิโอ โอลิมปิโก้ในเกมตัดสิน

ฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ในแชริตี ชิลด์ ก่อนที่จะมีคว้าสามด้วยเมเจอร์เก็บไว้ในตู้โชว์

ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงเดาได้ว่ากร็อบเบลลาร์เป็นคนที่ลงเล่นมากที่สุด เมื่อลงเล่นทุกเกมจาก 67 เกมทุกรายการ โดยเท่ากับอลัน แฮนเซ่น, อลัน เคนเนดี และแซมมี่ ลี