วันที่ 4 เม.ย. 65 ราล์ฟ รังนิก กุนซือชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม หลังเปิดบ้านทำได้แค่เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ทำให้ “ปิศาจแดง” มี 51 คะแนน จาก 30 นัด หล่นมาอยู่อันดับ 7 โอกาสลุ้นท็อปโฟร์เพื่อคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า เริ่มยากขึ้น เนื่องจากตาม สเปอร์ส อันดับ 4 และ อาร์เซนอล อันดับ 5 ที่มี 54 แต้มเท่ากัน อยู่ 3 คะแนน ซึ่ง “ปืนใหญ่” ยังแข่งน้อยกว่า 2 เกมอีกด้วย
ราล์ฟ รังนิก ซึ่งจะไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสโมสรของ แมนยูฯ หลังจบฤดูกาลนี้ ฝากถึงกุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามารับช่วงต่อจากเขา โดยระบุถึงสภาพทีมที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และปัญหาสำคัญ 2 ประการ (ความแข็งแกร่ง, ความดุดัน) ว่า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ต่างก็สร้างทีมมาเป็นเวลา 5-6 ปี ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่าโค้ชต้องการจะเล่นอย่างไร ผมบอกกับบอร์ดบริหารว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับยูไนเต็ด”
“เมื่อเราได้โค้ชคนใหม่แล้ว มันจะต้องเป็นลักษณะที่ว่าเขาต้องการเล่นอย่างไร และเราต้องการนักเตะแบบไหนสำหรับสิ่งนั้น แล้วก็วกกลับมาที่เรื่องดีเอ็นเอของทีมว่าเราต้องการอะไร ความเร็ว ความแข็งแรง จังหวะ ซึ่งทีมนี้ไม่ได้ขาดผู้เล่นเทคนิคดี แต่ควรเสริมในเรื่องพละกำลังมากกว่า ต้องมีการตัดสินใจที่ถูกต้องว่าจะไปทางไหน อยากได้นักเตะและผู้จัดการทีมแบบไหน และในทุกตลาดซื้อขาย ก็ต้องพยายามทำเพื่อสิ่งนั้นเท่าที่จะเป็นไปได้”
“มันไม่จำเป็นต้องนานถึง 3-4 ปี บางทีอาจต้องใช้เวลาสัก 2-3 รอบตลาดนักเตะ สถานการณ์อาจแตกต่างออกไป ผมไม่คิดว่าเราขาดคาแรกเตอร์ แต่สิ่งที่ชัดเจนในบางช่วงของเกมคือเราเป็นรองในเรื่องสภาพร่างกาย มันเป็นเรื่องของการดวลตัวต่อตัว เมื่อใดก็ตามที่มีการปะทะกัน เรามักจะเป็นรองบ่อยครั้งเกินไป นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำให้ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ แต่ต้องดียิ่งกว่านั้นสำหรับฤดูกาลหน้า”
“มีบางช่วงที่ผมรู้สึกว่าเราน่าจะดุดันมากขึ้น ปะทะได้ดีขึ้น ก้าวร้าวมากขึ้น แต่เราก็ทำไม่ได้ ความจริงแล้วมันต้องอยู่ในดีเอ็นเอของนักเตะสักหน่อย แต่มันก็ยากที่จะทำให้คนที่มีเทคนิคดีกลายเป็นผู้เล่นที่ดุดัน และเรามีหลายคนที่เป็นผู้เล่นสายเทคนิค ผมไม่คิดว่ามันเกี่ยวข้องกับทัศนคติ แต่มันเกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอของผู้เล่นที่มีอยู่”.